“ จังหวัดพัทลุง ”
ดื่มด่ำความสบายใจ ที่ชุมชนตะโหมด พัทลุง
00
YOU HAD ME AT ” HELLO “
. . .
ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะมาถึงที่นี่แล้วจริง ๆ ‘จังหวัดพัทลุง’ ที่เราไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลย ว่าจะได้มาเยือน อาจเป็นเพราะเราอยู่ห่างไกลกันเหลือเกิน แต่ก็คงไม่ไกลจนเกินไป ภายในสองวันหนึ่งคืนที่เราพักและเที่ยวชมที่นี่แบบ one night stay มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย นั่งก่อนสิ เดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟัง
01
FIRST IMPRESSION
. . .
รอยยิ้มพิมพ์ใจและการต้อนรับอย่างอบอุ่น
“หลาดต้นไทร ไปทางไหนคะ” เราถามทางกันมาตลอดเส้นทางที่ผ่าน ชุมชนเล็ก ๆ ที่ทุกอย่างอยู่ใกล้กันไปหมด การเดินทางตามหา จึงเหมือนเป็นเพียงม่านบาง ๆ บังตา เราขับผ่านไปมาตั้งหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังไม่เจอสักที จนถามทางรอบสุดท้าย และคิดว่าครั้งนี้คงต้องเจอ เราค่อย ๆ ขับช้า ๆ แล้วมองทาง “เจอแล้ว!” เสียงเพลงประจำชุมชนเปิดดัง มีพี่ ๆ รอต้อนรับอยู่สามสี่คน “สวัสดีค่าาา” เรายิ้มและทักทาย พี่ ๆ ถามกลับมาว่า ‘ทานอะไรมารึยังลูก มา ๆ แวะมากินขนมกันก่อน’ พอพักกินน้ำ ขนม และผลไม้กันสักพัก สายฝนก็โปรยลงมา
หลังจากฝนหยุด เราก็เดินลงไปชมวิวข้างล่างกันแบบชัดๆ วิวท้องนาข้าง ๆ ช่างสวยงาม มีน้องวัวอยู่กลางทุ่ง และมีนกกระยางสีขาวผ่อง กำลังยืนเรียงรายอยู่เต็มคันนา วิวตรงหน้าสวยงามมากจริง ๆ อีกทั้งรอยยิ้มและความเป็นกันเองของพี่ ๆ ทุกคน ทำให้เรารู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเลยแฮะ และนี่แหละ ความประทับใจแรกของเรากับที่นี่ ยินดีต้อนรับสู่ “ตะโหมด” เมืองบายใจ
ก่อนจะเตรียมออกเดินทางไปสถานที่ต่อไป เรานึกขึ้นได้ ว่ามีคำถามอยากจะถาม “ขอโทษนะคะ ที่นี่มีควายอะไร ทำไมหน้าตามันดุดัน และมีหนอกข้างหลัง หรือว่าเป็นวัวสายพันธุ์อะไร” ทุกคนงงกับคำถามที่เราถาม สักครู่หนึ่งก็มีผู้รู้ ชี้ทางสว่าง ‘วัวชน วัวที่เค้าเลี้ยงเอาไว้ชนหนะ’ อ้ออ อย่างนี้นี่เอง ส่วนนี่ ก็คือวัวชนที่กำลังเดินผ่านเราไป ชื่อเจ้าลางสาด เจ้าของบอกว่า ห้ามเข้าใกล้นะ ให้ถ่ายรูปอยู่ห่าง ๆ แกคงพร้อมชนทุกสิ่งเลยสิน
02
BELIEVE
. . .
ศรัทธาและความเชื่อ
แต่ละชุมชน ล้วนมีความศรัทธาและความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป ที่ตะโหมด เป็นชุมชนสองศาสนา ที่มีทั้งชาวพุทธและอิสลามอาศัยอยู่ร่วมกัน อย่างอยู่เย็นไปสุข ทุกคนในชุมชน เป็นเหมือนพี่น้องและปรองดองกัน หันไปทางไหนก็ยิ้มให้และทักทายกันอย่างอบอุ่น และที่สำคัญ ที่นี่ยังมีเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจอย่าง ‘พ่อท่านช่วย’ ที่เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวตะโหมดมายาวนาน
คนที่นี่เชื่อว่า ถ้าได้มาไหว้พ่อท่านช่วย ที่วัดตะโหมดแล้วจะโชคดี เราเองก็ไม่พลาด แวะมาที่นี่เช่นกัน ที่วัดตะโหมด มีห้องสมุดเทิดพระเกียรติสมเด็จย่าด้วย วัดเล็ก ๆ แห่งนี้ ถือเป็นสถาปัตยกรรมไทยที่งดงามจับใจจริง ๆ
นอกจากวัดวาอารามแล้ว เรายังแอบเห็นหนังตะลุงที่แขวนไว้ในห้องนอนเล็ก ๆ ที่บ้านของพี่อภัย หนึ่งในไกด์นำทางของพวกเรา ตำนานของหนังตะลุงที่ถูกเล่าขานมานานนม เป็นสิ่งที่ไม่เคยสูญหายไปจากหัวใจของทุกคน ไม่รอช้า พี่อภัยหยิบหนังตะลุงขึ้นมา แล้วเล่าเรื่องราวของชาวตะโหมดให้เราได้ฟัง ผ่านตัวละครพี่เท่ง นับว่าเป็นครั้งแรกที่เคยได้เห็น ได้ยิน ได้สัมผัสกลิ่นอายแห่งภาคใต้ ประทับใจมาก
03
ORGANIC LIFE AND BE COOL
. . .
ขี่ม้าชมสวน เศรษฐกิจพอเพียงคุณลุงนึง
มาเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงครัวเรือนแบบยั่งยืนกับคุณลุงนึง ในแปลงเกษตรเต็มไปด้วยขวดพลาสติกห้อยระโยงระยางเต็มไปหมด คุณลุงบอกว่า พลาสติกเนี่ย มันอายุไขยาวนานมาก ในเมื่อมันใช้เวลาย่อยสลายนาน เราเลยจับมันมาทำเป็นกระถางปลูกผักซะเลย ถือเป็นไอเดียที่เท่มาก ๆ เลย ปลูกผักได้ด้วย แถมยังช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกได้อีก
หลังจากนั้น เราก็มาขี่ม้าชมสวน วันนี้เราจะพาไปรู้จักพีทและสิงหา เจ้าม้าสองตัวของที่นี่ พีทคือตัวสีน้ำตาลขาว ที่เราขึ้นไปขี่ พีทน่ารักมาก ไม่ดื้อกับเราเลย
ส่วนอีกตัวคือสิงหา เราเกิดเดือนเดียวกันเลย วันนี้เป็นวันเกิดของสิงหาด้วย เราเลยร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์แล้วเข้าไปกอดสิงหาอย่างอบอุ่น รักจัง เนี่ยเพิ่งรู้จักกันยังรู้สึกผูกพันเหมือนรู้จักกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน กอดนะเจ้าสิงหา
04
ADVENTURE HAS BEGUN
. . .
ผจญภัย ไปกับเรือคายัค
ถึงแล้ว ที่ที่เราจะพายเรือจากต้นน้ำไปสู่ปลายน้ำ ดูสิ น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา สบายมากเลยยย แค่ได้สัมผัสน้ำก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที และนี่คือการนั่งเรือคายัคครั้งแรก ตื่นเต้นมาก อดใจรอไม่ไหวแล้ว เราไปผจญภัยกันเลยดีกว่า
เฮือกกก เราพายเรือกันมาไกลมาก ทั้งหลบกิ่งไผ่ กิ่งไม้ ใบไม้ รวมไปถึงตอไม้ แถมยังเรือคว่ำไปอีกกก เจ็บนิดหน่อยแต่สนุกมาก ได้เรียนรู้การแก้ปัญหา วิธีการพายเรือและหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ระหว่างทางก็แวะเก็บผลหมากรากไม้มากินด้วย เพลิน ๆ
ชอบสีสันของการพายคายัคมาก เรือสีสดใส แถมธรรมชาติก็ยังงดงาม ดูโทนสีของสิ่งเหล่านี้สิ สวยงามตามเรื่องเลยเนอะ แอบงงนิดนึง คือตอนพายมาเป็นเรือสีส้ม พอตอนกลับกลายเป็นสีแดงตอนไหนก็ไม่รู้ มีคนขโมยเรือจ้าา ส่วนเม็ดขาว ๆ ที่เห็น คือผลก้างปลา มีรสชาติหวาน ๆ แปลก ๆ ฮ่า ๆ ๆ อร่อยดีนะ ถ้ามาแล้วต้องลอง
05
WATERFALLS
. . .
ชีวิตและสายน้ำ
ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นชุมชนที่มีน้ำตกเยอะมาก คนแถวนี้เล่นน้ำตกกันจนเบื่อแล้วเพราะเล่นมาตั้งแต่เด็ก ๆ ส่วนเด็กอย่างพวกเรา ก็อยากมาเปิดหูเปิดตาบ้าง วันนี้เรามาถึงทั้งสองน้ำตกเลย นั่นก็คือ น้ำตกหม่อมจุ้ย และ น้ำตกลาดเตย
พี่สาวและพี่ทิพย์ เล่าให้ฟังว่า ชาวบ้านจะใช้น้ำประปาจากต้นน้ำที่นี่ เพราะจะไม่มีสารพิษ น้ำสะอาด เราเลยมาลองพิสูจน์กันสักหน่อย น้ำที่นี่ใสมากจริง ๆ สดชื่นมากเลย
มาน้ำตกทั้งที ก็ขอถ่ายภาพเท่ ๆ กลับไปหน่อยก็แล้วกันเนอะ การเดินเล่นน้ำตกวันนี้สนุกมาก ๆ ต้องขอบคุณพี่สาว พี่ทิพย์ และพี่โอ๋ ที่พาเราเดินขึ้นมาข้างบนนี้ สวยงามมากค่าาา
06
BEST FOOD, GOOD TASTE
. . .
ทานอาหารใต้ของแท้ จากครัวร้อยสาย
เลี้ยงดีขนาดนี้ จะไม่ให้คิดถึงได้ยังไง อยากกลับไปกินอีก ฮ่า ๆ ๆ อาหารที่นี่อร่อยทุกอย่างเลย เห็นภาพแล้วก็แอบน้ำไหลอยู่เหมือนกันนะ ทั้งของคาว ของหวาน ไหนจะผลไม้นานาพันธุ์ โอย ดีไปหมดเลย หิวอะ
นอกจากอาหารที่แปลกตา ที่นี่ยังมีผลไม้ที่หน้าตาแปลก และอาจไม่เคยเห็นมาก่อน อย่างเช่นลูกเล็ก ๆ ที่เห็นก็คือลูกเม่า เอาไว้ทำอาหารคาวก็ได้ หรือจะเอามาทำเป็นน้ำต้มกินก็ได้ มีสรรพคุณและประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
มีผลไม้ชื่อแปลกอีกเยอะแยะเลย เช่นเจ้าเมล็ดสีส้มนี้ เรียกว่า ‘จำปุริ้ง’ ชื่อน่ารักมาก อยู่บนต้นสูง สูงมากกกก รสชาติคล้ายๆ มะเขือเทศผสมกับมะไฟ ปะแล่ม ๆ หน่อย แต่อร่อยเหมือนกันนะ และมะอึก เอาไว้ตำน้ำพริก ยังมีผลไม้และผักอีกมากมาย ที่เราเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกที่นี่แหละ ใครยื่นอะไรมาให้ก็กินหมด โดนหลอกให้กินใบฟ้าทะลายโจรด้วย ขมปี๋เลย ตะโหมด ตื่นตาตื่นใจมากจ้าา
07
KUAN TA KHOM
. . .
ชมทะเลหมอก ที่ควนตาคม
MORNING KISS FROM THE HILL
ที่นี่คือจุดชมวิว ‘ควนตาคม’ ควน แปลว่าเนินเขา ส่วนควนตาคม ก็คือ ควนของตาคม ฮ่า ๆ ง่าย ๆ เลยใช่มั้ยหละ นี่คือเนินเขาที่หลายคนที่นี่มักจะขึ้นมาจีบกัน เอ้า จริง ขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตกด้วยกันอย่างโรแมนติก พวกเราเองก็เช่นกัน วันนี้เราขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เดินขึ้นเนินมา ทะเลหมอกบนนี้สวยงามมาก แต่เสียดายที่วันนี้หมอกเยอะไปหน่อย อดเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเลย
TOUCHING TO SUNLIGHT
ตอนเที่ยง ก่อนจะไปทานข้าวกัน เราตัดสินใจขึ้นมาชมวิวที่นี่อีกครั้ง เพราะพี่ธนินบอกว่า ถ้ามาตอนกลางวันก็จะสวยไปอีกแบบเหมือนนะ อาจจะแตกต่างจากตอนเช้าตรู่ แต่ความงามก็ไม่แพ้กันเลย พอมาถึง รู้สึกขอบคุณตัวเองที่กลับมาอีกครั้ง สวยงามมากจริง ๆ ทิวเขาสีฟ้าและป่าสีเขียวชะอุ่ม แดดจ้า อ่าา ใกล้จะเป็นลมแล้วหละ แดดแรงเชียว แต่วิวตรงนี้ก็คุ้มค่ากับการลมจับเหมือนกัน ‘สวยจนเป็นลม’
‘ หลงรักเขา ‘
แต่ละช่วงเวลา ทำให้เห็นความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปจริง ๆ ไม่ว่าจะตอนไหนเวลาไหนก็สวยเนอะ ไม่เสียแรงที่เดินขึ้นมาหลายรอบ ฮ่า ๆ ๆ
08
KHAO HUA CHANG
. . .
อ่างเก็บน้ำเขาหัวช้าง
ที่นี่เป็นอีกแลนด์มาคหนึ่งของตะโหมด ที่ไม่ว่าใครจะแวะเวียนมา ก็ต้องมาถ่ายรูปและชมวิวที่นี่ เรามีโอกาสได้มาทั้งสองช่วงเวลา ทั้งช่วงตอนกลางวัน และตอนก่อนพระอาทิตย์ตก ความสวยงามที่แตกต่างกันของแต่ละช่วงเวลา ทำให้เราตกหลุมรักราวกับมีมนตร์สะกด เห็นยอดเขาใหญ่ ไกล ๆ นั่นมั้ย ก้อนเมฆตรงนั้น ไม่เคยลอยหนีไปไหนไกลเลย เราสังเกตอยู่นาน ก้อนเมฆก้อนนี้ ยังคอยอยู่ตรงนั้น เคียงข้างภูเขาใหญ่ลูกนั้นเสมอ อบอุ่นจังเลยเนอะ
บรรยากาศในช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก ชาวประมงกำลังขับเรือกลับมาที่ฝั่ง แสงอาทิตย์ที่กำลังตก เตรียมตัวจะลับขอบฟ้าไปแล้ว แสงอุ่นในยามเย็นย่ำช่างสุขใจ ดีใจที่ได้มาเห็น ความสวยงามตรงหน้า ควรมีโอกาสได้มาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้งนะ
09
LAND OF HONEY
. . .
ตะโหมด เมืองแห่งน้ำผึ้ง
ชุมชนแห่งนี้ ขึ้นชื่อเรื่องน้ำผึ้ง จากผึ้งโพรง (Indian Honey Bee) ผึ้งสายพันธุ์นี้ โดยปกติจะอาศัยอยู่ในโพรงไม้ ซึ่งทำให้นำน้ำผึ้งออกมาได้ยาก ชาวบ้านจึงเรียนรู้และสร้างรังขึ้นมาเอง น้ำผึ้งจากผึ้งโพรงมีสรรพคุณมากมาย เพราะเป็นผึ้งที่ดูดน้ำหวานจากดอกไม้หลากหลายชนิด เป็นพันชนิดเลยก็ว่าได้
และนี่ก็คือภาพรังผึ้งที่ชาวบ้านสร้างขึ้นให้เจ้าผึ้งน้อยมาอาศัยอยู่ รูปร่างหน้าตาก็คล้ายๆบ้านคน แต่เล็กหน่อย มีพื้นที่ข้างในไว้ให้ผึ้งอาศัยอยู่ โดยเราจะล่อด้วยขี้ผึ้ง ให้ผึ้งเข้ามาทำรัง หลังจากนั้นก็รอเวลาที่เหมาะสม ก็จะใส่เครื่องแบบป้องกันผึ้งต่อย และลุย! ไปเก็บรังผึ้งได้ ส่วนเจ้ารังผึ้งสีขาว ๆ นี่ คือการทิ้งรังของผึ้ง หรือผึ้งทุกตัว อพยพบ้านไปอยู่ที่อื่น ทำให้รังร้างนั่นเอง
10
GOOD MORNING SUNDAY
. . .
ตลาดนัดวันอาทิตย์
เช้าวันนี้เรามีโอกาสได้มาตลาดนัดวันอาทิตย์ ที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องมา อาหารแปลกตาเต็มไปหมด แถมยังอร่อยอีกด้วย ตลาดเช้าขายผักสด ๆ จากสวน เห็นแล้วก็สดชื่น อาหารก็ราคาไม่แพง อร่อยอีกด้วย ไหนจะขนมถังแตก ขนมดอกโดน ไก่ทอดที่คนต่อแถวรอยาวเฟื้อย ปลาสด ๆ และอาหารทะเลสด ๆ มากมาย ทุกอย่างละลานตาไปหมดจริง ๆ
ที่เด็ดที่สุดและชอบที่สุดก็คือโรตีกรอบเลยจ้าาา ฟินสุด แบบโห้วว ถ้าได้มาแล้วต้องโดนนะ อร่อยเวอร์ ไข่ปลาทอดก็อร่อย ยี่สิบบาทได้มาเพียบจนกินไม่หมด เราชอปปิ้งของกินกันแบบ ลืมนึกเลยอะว่าจะกินหมดมั้ย สุดท้ายก็คือไม่หมดจ้า ฮ่าๆๆ
11
FEEL LIKE HOME
. . .
อรกมล โฮมสเตย์ ยินดีต้อนรับ
มาถึงที่พักแบบงง ๆ เตรียมตัวกินข้าวเย็น แบบคนที่หิวโหย สักพักหนึ่ง พี่ทิพย์ก็พูดขึ้นมาว่า คืนนี้ ‘หนูนอนนี่นะลูก’ เอ้า หรอคะ ก็ว่าแล้ว ทำไมเจ้าของบ้านยิ้มให้ซะหวานฉ่ำ และนี่แหละ คือที่พัก ONE NIGHT STAY ของพวกเรา “อรกมล โฮมเสตย์ ยินดีต้อนรับ” พี่โอ๋ พี่เล็ก และน้องน้ำมนต์ ยิ้มต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น จนรู้สึกว่าเหมือนเป็นบ้านของพวกเราจริง ๆ เราพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เหมือนเป็นญาติมากกว่าเจ้าของบ้านและผู้มาพัก บรรกาศรอบบ้านน่าอยู่ แถวยังรู้สึกดีมาก ๆ ด้วย
เสียงไก่ขันปลุกตอนตีห้าพอดีเป๊ะ ไม่ได้ยินเสียงไก่ขันปลุกตอนเช้าแทนนาฬิกาปลุกมานานแค่ไหนแล้วนะ ใกล้จะต้องกลับแล้ว ยังไม่อยากกลับเลย ที่นี่เราทั้งมาซักผ้า ตากผ้า ล้างรถ ทำทุกอย่างเหมือนอยู่บ้านเลย FEEL LIKE HOME มาก ๆ จริง ๆ
12
MORE THAN PRESENTS
. . .
ของฝาก ที่มีค่ามากกว่านั้น
อยากได้อะไรขอแค่บอก ไม่ว่าจะผลไม้ หรืออาหารอะไร นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีผลิตภัณฑ์ OTOP มากมาย ไม่ว่าจะเป็นทุเรียนทอด โรตีกรอบ ข้าวสังข์หยด สบู่จากธรรมชาติ หอมมาก ชอบมาก ก่อนกลับ พี่ ๆ ซื้อทั้งสะตอของโปรดของเธอ และผลไม้ให้มากมาย จนขนกลับไม่ไหว แถมด้วยแกงไตปลาแห้งจากพี่สาว อร่อยมาก และที่สำคัญกว่าของฝากทุกอย่าง ที่รอยยิ้มที่พี่ ๆ ทุกคนมอบให้กันมา นี่จะเป็นของฝากที่มีค่ามากที่สุดตั้งแต่เคยได้รับมา
NICE TO MEET YOU
ขอบคุณพี่ธนิน พี่อภัย พี่เล็ก พี่สาว พี่ทิพย์ พี่โอ๋
และทุกๆคน ที่ต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดีไม่รู้ว่าเรียกว่ารักได้มั้ย แต่รู้สึกดี
ไว้พบกันใหม่นะคะ. . .
LOVE TAMOD
SEE YOU AGAIN.
P L A N
ร า ย ล ะ เ อี ย ด ก า ร เ ดิ น ท า ง
เดินทางจากสนามบินหาดใหญ่ ประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ มาถึงที่ชุมชนตะโหมด
DAY 1
01 พบกันที่ตลาดต้นไทร
02 กราบพ่อท่านช่วย ที่วัดตะโหมด
03 ชิมทุเรียนทอดศูนย์ OTOP ผลิตด้วยพลังงานทางเลือก
04 ขี่ม้าชมเศรษฐกิจพอเพียงครัวเรือนแบบยั่งยืน
05 ทานอาหารเที่ยง
06 พายเรือคายัค
07 ดูพระอาทิตย์ตกที่อ่างเก็บน้ำเขาหัวช้าง
08 ทานอาหารเย็น
09 เข้าพักที่โฮมสเตย์
DAY 2
01 ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ควนตาคม
02 ตลาดนัดพระอาทิตย์
03 ไปชมศูนย์ปฏิบัติธรรม
04 ไปที่ศูนย์เรียนรู้ผึ้งโพรงไทย
05 ทานอาหารเที่ยงแบบครัวร้อยสาย
06 เที่ยวน้ำตกหม่อมจุ้ยและน้ำตกลาดเตย
BUDGET:
PACKET ท่องเที่ยวชุมชน ที่พัก 2 วัน 1 คืน พร้อมอาหารและกิจกรรมในชุมชน
2-3 คน คนละ 1,250 บาท
4 คนขึ้นไป คนละ 900 บาท
*ราคาขั้นต่ำ 2 คน
ติดต่อชุมชน 087-2988588 พี่ธนินธรณ์
ติดตามเรื่องราวต่าง ๆ จากพวกเราได้ที่ imminimus