“ จังหวัดอุดรธานี ”
ชุมชนคีรีวงกต ตะล็อกต๊อกแต๊ก
กดดูคลิปข้างล่างนี้ก่อนสิ แล้วจะอยากไปมากกว่าเดิมนะ ^________^
ทริปนี้ก็เป็นทริปที่เรากำลังจะเดินทางไปที่ หมู่บ้านคีรีวงกต จังหวัดอุดรธานี เพื่อไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน และชมบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติและที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “รถอีแต๊ก” ซึ่งเป็นตัวเอกของทริปนี้เลยก็ว่าได้ จึงทำให้เราตัดสินใจไปทันที สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบลุยๆที่นี่เหมาะกับคุณแน่นอน เดินทางค่อนข้างโหดเลยนะ แต่ถ้าได้มาแล้วจะต้องกลับมาอีกครั้งแน่ ๆ โดยเราเดินทางกันด้วยสายการบินนกแอร์ไปกลับตกคนละ 2,000 บาท แต่ที่นั่งสบายแถมมีบริการน้ำดื่มด้วย เผลอแปปเดียวถึงสนามบินอุดรธานีแล้ว ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 45 นาที
พอมาถึงสนามบินอุดรธานี ก็จัดการเหมารถมาที่ตลาดรังษิณา 80 บาท เพื่อขึ้นรถตู้ไปน้ำโสม ค่ารถตู้คนละ 100 บาท รถออกทุกชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็จะถึง บขส.น้ำโสมแล้วค่ะ
และนี่ก็คือผู้ใหญ่บ้านของที่นี่ “ ผู้ใหญ่อ๋อย ” เป็นคนที่คอยดูแลชุมชนและคอยให้รายละเอียดทริปนี้กับเรา ผู้ใหญ่อ๋อยใจดีมากนี่ขนาดไม่กล้าเข้ากล้องนะ แกเขิน 555 ผู้ใหญ่อ๋อยให้รถออกไปรอรับพวกเราที่ บขส. เพื่อเข้ามาในชุมชนคีรีวงกต และต้อนรับพวกเราเป็นอย่างดี ให้นั่งพักกินน้ำ ถ่ายรูปให้หน่ำใจ แล้วถึงไปลุยต่อ
จากนั้นก็ได้เวลานั่งรถอีแต๊กตะลุยกันแล้วววว
ผู้คนที่นี่น่ารัก ยิ้มแย้ม ต้อนรับกันดีทุกคน รถอีแต๊กเรียงรายเข้าไปพร้อม ๆ กัน มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ถ่าย ๆ ไปภาพก็เบลอเพราะบนรถอีแต๊กสั่นสะเทือนสุด ๆ จับกันให้แน่นนะเดี๋ยวตก
ถ้าใครชอบเที่ยวแนว ๆ รักธรรมชาติ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด บรรยากาศโคตรดีย์ ถ้าให้พูดถึงการเดินทางก็เหนื่อยนะ แต่ตอนนั่งรถอีแต๊กมาไม่เหนื่อยเลย เพราะ วิวล้วน ๆ ชิวมาก รูปก็เยอะมากเหมือนกัน
ขอรูปอีแต๊กอีกสักรูป ชอบมาก พร้อมกับป้าย “ท่านมาเราดีใจ ท่านจากไปเราคิดถึง” พวกเราก็คิดถึงคุณเหมือนกัน
อาหารกลางวัน ก็จะเป็นส้มตำ ปลาเผา ข้าวเหนียวกระบอกไม้ไผ่ แกงส้มปลาหยวกกล้วยหอมสุดๆ แล้วสังเกตได้ว่าภาชนะต่าง ๆ จะทำจากธรรมชาติทั้งหมด ฟินม๊ากกกก และที่สำคัญเติมได้ตลอดไม่อั้น ส้มตำสั่งรสชาติได้เลยแซ่บทุกเมนูค่ะ ผู้ใหญ่อ๋อยฝากบอกว่า มาที่นี่ต้องอิ่ม อิ่มแบบสุด ๆ กินท่ามกลางธรรมชาติฟังเสียงน้ำตก อยากอยู่ที่นี่ไม่อยากกลับเลย
หลังจากกินอิ่มก็นั่งอีแต๊กมาที่พักนั่นคือโฮมสเตย์กลางหุบเขา ได้บรรยากาศธรรมชาติสุด ๆ เปิดเข้าไปในห้อง ชาวบ้านก็ได้จัดเตรียมหมอนมุ้งผ้าห่มให้เรียบร้อย สะอาด น่านอนมากเลยจัดไปสักหนึ่งตื่น
ตื่นขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นของอาหารเย็น โอ้โห้ จัดได้สวยงามน่าทานมากจริง ๆ น้ำพริกผักต้ม ปลาทอด ต้มจืดเต้าหู้วุ้นเส้นหมูสับ บวบผัดไข่ ไข่เจียวหมูสับ พร้อมตบท้ายด้วยแตงโม รสชาติ 10/10 ไปเลยจ้า อิ่มหนักมาก หลังจากรับประทานเสร็จก็เดินย่อย ถ่ายรูปวิว อาบน้ำเข้านอน เพราะผู้ใหญ่อ๋อยบอกว่า พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวจะพาไปดู ทะเลหมอก เก็บแรงไว้
ตื่นเช้ามาพร้อมกับบรรยากาศธรรมชาติ ล้อมไปด้วยหุบเขาและม่านหมอก แถมได้กินกาแฟที่ชาวบ้านที่นี่เขาคั่วกันเอง พร้อมทั้งขนมครก ปาท่องโก๋ รองท้องเพื่อนั่งอีแต๊กไปชมทะเลหมอกยามเช้า !!
ตอนนั่งรถอีแต๊กก็โยกเยก แอบเหนื่อยเหมือนกันนะ เดินทางติดๆกันมาหลายวัน แต่พอมาถึงก็ต้องบอกเลยว่าหายเหนื่อย พอรถอีแต๊กจอด ก็เดินเท้าอีกนิดหน่อยขึ้นไปบนยอดเขาตอนแรกก็คิดในใจ นี่เดินขึ้นไปจะสวยไหมนะ ไหน ๆ ก็มาถึงละ ลองเดินขึ้นไปหน่อยละกัน พอถึงเท่านั้นแหละ หยิบกล้องมาถ่ายรูปรัว ๆ บรรยากาศดีมากจริง ๆ พวกเราอยู่บนนั้นพักใหญ่เลยหล่ะ นั่งพิมพ์ไปยังคิดถึงบรรยากาศทะเลหมอกวันนั้นอยู่เลย
ไม่เสียแรงที่ตื่นเช้าตรู่ขนาดนี้ ชอบมาก หมอกเยอะมาก
หลังจากดื่มด่ำบรรยากาศเสร็จแล้วก็ลงมาทานอาหารเช้า ก็จะเป็นข้าวผัด ต้มจืด โดยอาหารทุกมื้อจะเป็นบุฟเฟ่ต์ทั้งหมด ลุงผู้ใหญ่บ้านบอกว่า มาที่นี่ต้องอิ่มที่สุด ทริปนี้นอกจากจะสนุกแล้วขอบอกว่าชาวบ้านที่นี่ทำกับข้าวอร่อยมาก และแน่นอนกินไปหลายจานเลยทีเดียว
หลังจากรับประทานอิ่มแล้วก็ไปสถานที่สุดท้ายของทริปนี้ โดยผู้ใหญ่อ๋อยได้จัดเตรียมรถพาเราไปไหว้พระ ที่วัดป่าภูก้อน ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติบนหุบเขา โดยได้เข้าไปสักการะพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนที่นี่ให้ความเคารพนับถืออย่างมาก ใครมาพักผ่อนที่ชุมชนคีรีวงกตผู้ใหญ่อ๋อยจะให้ไปหลังจบทริปเสมอ เพื่อเป็นสิริมงคลแกตนเอง เดินทางกลับอย่างปลอดภัย หลังจากกราบไว้เสร็จ ผู้ใหญ่ก็ให้รถไปส่งที่ บขส.เพื่อเดินทางกลับ อิ่มพุง อิ่มใจ และยังอิ่มบุญ ด้วยนะ
จบแล้วสำหรับทริปนี้ไม่ผิดหวังจริง ๆ ที่ได้ก้าวออกมา แค่ก้าวก็จะพบกับโลกของการท่องเที่ยว เที่ยวครั้งนี้ไม่เหมือนเที่ยวครั้งก่อน ๆ ที่พวกเราเคยไปมา ครั้งนี้โดนเสน่ห์ของคนในหมู่บ้านไปเต็ม ๆ ชาวบ้านใจดีเป็นกันเอง แถมยังทำกับข้าวอร่อยด้วย กิจกรรมบ้าน ๆ ที่โคตรมีความสุข นั่งตากแดดผ่านลำธาร ผ่านสวนยาง ผ่านป่าไม้ เป็นการพักผ่อนที่โคตรลุย โคตรดิบ โคตรชอบ จะไปค้างคืนหรือไปเช้าเย็นกลับก็ได้แล้วแต่เรา จะไปแบบครอบครัว เพื่อน คนรัก ก็ได้ทุกแบบ ไปแล้วมันเติมพลังให้เราจริง ๆ เป็นคนเขียนรีวิวไม่ค่อยเก่งแต่ อยากให้ลองไปสัมผัสการท่องเที่ยว แบบชุมชนแล้วคุณจะตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัว