“ จังหวัดตรัง ”
บ่อหินฟาร์มสเตย์ จ.ตรัง
….ถ้าจะพูดถึงตรังหลายๆคนคงจะต้องนึกถึงจังหวัดที่มีของกินอร่อยแน่ ๆ แต่ครั้งนี้เราจะพาไปที่อำเภอเล็ก ๆ อย่างอำเภอสิเกา เป้าหมายของเราครั้งนี้คือการมาใช้ชีวิตชิล ๆ สัมผัสธรรมชาติที่ฟาร์มสเตย์ริมน้ำ ซึ่งเราว่าหลายคนอาจไม่คุ้นชื่อกันสักเท่าไรอย่าง”บ่อหินฟาร์มสเตย์”
จากตัวเมืองตรังใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเราก็จะมาถึงชุมชนเล็กๆอย่างชุมชนบ่อหินกันแล้ว ซึ่งปกติเราจะไม่ค่อยได้เที่ยวโฮมสเตย์กันสักเท่าไร แต่ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีมากๆที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ อส.Social เราเลยได้พาทุกคนไปเที่ยวชุมชนบ่อหินกันแบบ 2 วัน 1 คืน ใครสนใจลองคลิ๊กเข้าไปดูที่ www.1nightstaywithlocals.com ยังมีอีกหลายชมชุนที่น่าสนใจรออยู่อีกเพียบ
….การเดินทางไปบ่อหินฟาร์มสเตย์ในครั้งนี้เราเริ่มต้นกันที่สนามบินดอนเมืองมาลงที่ตรัง ซึ่งจริง ๆ การมาตรังมันก็มีมีหลายแบบด้วยกันไม่ว่าจะรถไฟ เครื่องบิน รถทัวร์ แล้วแต่ความชอบเลย พอเรามาถึงตรังแล้วเราก็เลือกเลยว่าจะไปที่บอหินฟาร์มสเตย์กันแบบไหน จะเช่ารถยนต์จากสนามบินหรือเหมารถตู้พร้อมคนขับ ให้รถของชุมชนให้มารับก็ได้
ครั้งนี้เราโชคดีหน่อยที่มีน้องจากภูเก็ตขับรถมาด้วย เราเลยให้แวะรับเราและไปที่บ่อนหินฟาร์มสเตย์ ซึ่งจากสนามบินตรังขับรถไปเองก็ประมาณ 40 กิโลเมตร
ค่าใช้จ่ายสำหรับชุมชนบ่อหินฟาร์มสเตย์ 2 วัน 1 คืน
– ค่าโฮมสเตย์ + ค่าอาหาร 3 มื้อ คนละ 1,000 บาท แต่ถ้า 8 ท่านขึ้นไปก็คนละ 700 บาท
Facebook Fan Page บ่อหินฟาร์มสเตย์
ติดต่อชุมชน: 081-8927440 คุณบรรจง
…เดี๋ยวเราจะพาไปดูกันว่าชุมชนแห่งนี้มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง ซึ่งโดยหลัก ๆ ก็จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจ 5 จุดด้วยกัน ต้องบอกก่อนเลยว่าบ้างที่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย อย่างช่วงที่เราไปเจอพายุและคลื่นลมแรงหลายจุดก็อดไป
1. ล่องเรือชมป่าชายเลน
2. แช่บ่อน้ำพุร้อนกลางป่าชายเลน
3. เที่ยวเกาะหลอหลอ(ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
4. ปลูกหญ้าทะเลเพื่อเป็นอาหารพะยูนที่อ่าวบุญคง(ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
5. ดูพระอาทิตย์ตกที่หาดเก็บตะวัน
วีดีโอเท่ ๆ ในแบบของพวกเรากับชุมชนแห่งนี้…บ่อหินฟาร์มเสตย์ จ.ตรัง
….แค่เราเริ่มเดินทางเราก็เจออุปสรรคกันแล้ว เพราะช่วงที่เราไปกันดันเป็นช่วงที่พายุเข้า เราเองก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ ๆ กล่าวมาข้างต้นครบไหม แต่ไหน ๆ ก็มากันแล้วเราก็หาได้แคร์ไม่มาแล้วก็ต้องลุยกันให้สุดเป็นไงเป็นกัน อย่างที่บอกครั้งนี้เราโชคดีที่ไม่ต้องเช่ารถเพราะเราให้น้องขับรถจากภูเก็ตแวะมารับเราก่อนที่จะเดินทางไปบ่อหินฟาร์มสเตย์กัน เรามาถึงบ่อหินฟาร์มสเตย์ในช่วงบ่าย ๆ ซึ่งใช้เวลาพอสมควรเพราะระหว่างทางฝนตกตลอดทาง แต่แปลกมากที่เรามาถึงที่นี่ฝนกลับไม่ตกเลย
….ที่พักของเราอย่างที่บอกว่าเป็นฟาร์มสเตย์ ซึ่งบรรยากาศก็จะบ้าน ๆ ติดริมน้ำให้ความรู้สึกของการมาพักผ่อนจริง ๆ
นอกจากที่พักจะติดริมน้ำแล้วด้านหน้าที่พักยังเป็นกระชังปลาที่เราจะได้ทานปลาสด ๆ จากกระชังกันอีกด้วย
หลังจากที่เก็บของเข้าที่พักกันเรียบร้อยแล้วเดี๋ยวหลังจากนี้จะได้เวลาออกลุยกันแล้ว
ล่องเรือชมป่าชายเลน
- เรามาเริ่มกันด้วยการนั่งเรือชมระบบนิเวศของป่าชายเลนกัน ที่นี่เป็นอีกหนึ่งแห่งที่มีป่าชายเลนที่สมบูรณ์เป็นแหล่งอนุรักษ์และเรียนรู้ระบบนิเวศที่สำคัญมาก ๆ
หาดราชมงคล
- หลังจากที่ล่องเรือชมป่าชายเลนแล้วพี่เอ๋ที่เป็นไกด์ให้เราก็พามาที่หาดราชมงคล ซึ่งเป็นอีกหาดที่สวยมาก ๆ แต่น่าเสียดายช่วงที่เรามาคลื่นลมแรง
แช่น้ำร้อนกลางป่าชายเลน
- น้ำร้อนกลางป่าชายเลนมีอุณภูมิประมาณ 45-50 องศา เรียกได้ว่าร้อนเอาการที่เดียว พี่เค้าเลยแนะนำให้เราเอาโคลนทาตัวกันก่อน แต่ถ้าเเช่เท้ามันก็จะทำให้รู้สึกสบายตัวเอามาก ๆ
พี่เค้าบอกให้เอาโคลนทาตัวก่อนแล้วค่อยลงไปแช่น้ำจะได้ไม่ร้อนมาก นี่ก็เล่นทาแบบจริงจังกันเลย
เค้าให้ทาตัวแล้วลงไปแช่น้ำร้อนแต่พวกเราดันมาเล่นสไลด์เดอร์โคลนกันแทน สนุกเค้าแหละ
กลับมาที่พักเพื่อเตรียมตัวสำหรับมื้อค่ำกัน ที่พักของเราช่วงเย็น ๆ ก็จะประมาณนี้แหละ เงียบสงบไม่วุ่นวาย
มื้อค่ำของเราวันนี้มันก็จะอลังการงานสร้างหน่อย ๆ ที่สำคัญอร่อยมาก ๆ สด ๆ จากกระชัง หมดไหมไม่รู้แต่ที่รู้ ๆ ฟินสุด ๆ
วันนี้ใช้พลังงานกันมาทั้งวันเรียกได้ว่าแบตหมดกันทุกคน ทานมื้อค่ำกันอิ่มแล้วก็ได้เวลาที่เราจะชาร์ตพลังพร้อมที่จะลุยต่อกันวันพรุ่งนี้แล้ว
สวัสดีเช้าวันใหม่ที่โคตรฟินกับบรรยากาศยามเช้าริมกระชังปลา
นั่งมองวิวเบื้องหน้าเพลิน ๆ จนลืมดูเวลากันเลยที่เดียว
เช้านี้เราตั้งใจจะมาดูทะเลหมอกใกล้ ๆ ที่พักของเรากัน แต่วันนี้หมอกไม่มาจ้า ผิดหวังนิดหน่อยแต่วิวเบื้องหน้าก็พอจะแทนที่กันได้
บรรยากาศโดยรอบฟาร์มสเตย์มันก็จะประมาณนี้ คือเต็มไปด้วยป่ายางและป่าปาล์ม ด้านหลังก็จะเป็นป่าชายเลนและทะเลตรัง
หาดคลองสน
- เป็นอีกหนึ่งหาดที่ใกล้กับท่าเรือคลองสน บรรยากาศร่มรื่นมากๆและถ้าใครอยากจะมากางเต็นท์ที่นี่ก็สามารถทำได้และที่สำคัญฟรีอีกด้วย
หาดคลองสนอาจจะไม่ใช่หาดที่ได้รับความนิยมมากหนัก เพราะเป็นหาดหิน แต่บรรยากาศโคตรดี วิวโคตรสวย มันดีต่อใจมาก ๆ เลย
หาดเก็บตะวันเป็นอีกหนึ่งหาดที่สวยมาก ๆ ยิ่งช่วงเย็นเป็นที่ ๆ เหมาะกับการมาดูพระอาทิตย์ตก
เดินเล่นริมหาดเราก็จะเจอปูก้ามดาบอยู่เต็มไปหมดเลย เดินไปก็ระวังไปกลัวจะเดินไปเหยียบ
หลังจากที่ไปหาดคลองสนกันมาแล้วเราก็กลับมาเก็บของกัน ระหว่างนั้นก็ได้เห็นพี่เค้ากำลังให้อาหารปลาที่กระชังพอดี ถ้าตกลงไปมีหวังรอดยาก
หญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารสำคัญของพะยูน ช่วงที่คลื่นลมสงบเราจะได้ไปปลูกหญ้าทะเลกันที่อ่าวบุญคง แต่เสียได้ครั้งนี้มาเจอช่วงพายัเข้าพอดี
เรามาดูผลิตภัณฑ์ชุมชนของที่นี่กันบ้าง ซึ่งทำมาจากเตยปาหนันหรือที่เราๆรู้จักกันในชื่อเตยทะเล เป็นอะไรที่สวยมาก ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีลูกค้ามารับซื้อและมีออเดอร์เข้ามาเยอะมาก
แมน ๆ อย่างเรามีเหรอจะพลาดการทำผ้าบาติค เอาจริง ๆ ดูเหมือนจะง่ายแต่ไม่ง่ายเลย เดี๋ยวมาดูกันว่าผลงานเราจะเป็นอย่างไร
บอกเลยว่างานอวยตัวเองต้องมา ผลงานของพวกเรานี่มันไม่ธรรมดาจริง ๆ ดูซะก่อน
ก่อนจะเดินทางกลับก็ไม่พลาดที่จะซื้อของฝากติดไม้ติดมืออย่างปลาเค็มกางมุ้งที่เค้าว่ากันว่าเด็ด คือของดีของเด็ดของที่นี่เลย
ขอบคุณที่ทนอ่านกันมาจนจบ ต้องขอบคุณโครงการดี ๆ อย่าง อส.Social ที่ให้เราได้พบเจอกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เราไม่เคยรู้จักมาก่อน ขอบคุณการเดินทางที่ทำให้เราเจอมิตรภาพดี ๆ ขอบคุณทุกคนที่คอยช่วยหลือและสนับสนุนพวกเราเสมอมา
หากมีข้อสงสัยอะไรสามารถถามกันมาได้นะ
www.facebook.com/thetravelerz และ www.facebook.com/WideWalker